นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

ประกาศ ณ วันที่  7  เมษายน พ.ศ. 2564

ด้วยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้น เพื่อกำหนดนโยบาย แนวทางในการปฏิบัติที่สำคัญในการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของ สบน. เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และช่วยให้การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย การเก็บรักษา และ ส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปโดยถูกต้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 นิยาม

“บุคคล” หมายความว่า บุคคลธรรมดา

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจาก สบน. เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพ.ศ. 2562

ข้อ 2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สบน. ทำการเก็บรวบรวม และแหล่งที่มาของข้อมูล

ก. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

  (1) ข้อมูลที่ได้รับจากเอกสารและการแสดงตัวตน หรือข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงไปยังข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวตนได้ เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน อายุ วัน-เดือน-ปีเกิด ที่อยู่หรือสถานที่ติดต่อ หน่วยงานเจ้าสังกัด หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น

(2) ข้อมูลด้านการเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร สถานะทางภาษี เป็นต้น

(3) ข้อมูลอื่นๆ ที่ผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมอบให้กับ สบน. ระหว่างการติดต่อประสานงานกับ สบน. หรือตามที่ สบน. ร้องขอให้จัดส่งเพื่อประกอบการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่

(4) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาจากหน่วยงานอื่น เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการปกครอง เป็นต้น

ข. ข้อมูลส่วนบุคคลด้านการบริหารงานทรัพยากรบุคคล

(1) ข้อมูลที่ได้รับจากเอกสารและการแสดงตัวตน หรือข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงไปยังข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวตนได้ เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน อายุ วัน-เดือน-ปีเกิด ที่อยู่หรือสถานที่ติดต่อ หน่วยงานเจ้าสังกัด หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น 

(2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ศาสนา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น

(3) ข้อมูลด้านการเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร สถานะทางภาษี เป็นต้น

(4) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวตนของบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวในครอบครัวของบุคลากร (คู่สมรส บุตร หรือบิดามารดา) เพื่อการบริหารงานทรัพยากรบุคคลของ สบน. เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน วัน-เดือน-ปีเกิดของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น

ค. ข้อมูลส่วนบุคคลด้านการบริหารสำนักงาน

(1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวตนของบุคคลซึ่งเข้าร่วมกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
การบริหารพัสดุ และงานคลัง เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน อายุ วัน-เดือน-ปีเกิด ที่อยู่หรือสถานที่ติดต่อ หน่วยงานเจ้าสังกัด หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น 

(2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บ่งชี้ตัวตนของบุคคลซึ่งเข้าร่วมประชุม อบรม สัมมนา กิจกรรม หรือรับบริการอื่นใด เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่หรือสถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ประวัติการทำงาน หน่วยงานเจ้าสังกัด ลายมือชื่อ ภาพถ่าย เป็นต้น

ข้อ 3 วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

สบน. มีความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตามวัตถุประสงค์
การจัดตั้งและอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่ระบุไว้ในกฎกระทรวงการแบ่งส่วนราชการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง พ.ศ. 2551

ปัจจุบัน สบน. ได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานของ สบน. หลายด้าน โดยมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเอกสาร ฟิล์ม ภาพหรือเสียง หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งมีการนำข้อมูลส่วนบุคคลมาประมวลผลเพื่อประโยชน์ในภารกิจของ สบน. ด้วย ดังนั้น สบน. จึงจำเป็นต้องสร้างการรับรู้และตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคลากร ผู้ใช้บริการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของ สบน. เพื่อให้การบริหารจัดการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปในแนวทางเดียวกัน และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งจะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 4 การเคารพสิทธิส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สบน. ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และจะเคารพสิทธิ
และเสรีภาพส่วนบุคคลตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และ สบน. จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในข้อ 3 เท่านั้น นอกจากนี้ สบน. จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
และมีคุณภาพ รวมทั้ง สบน. จะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต หรือมิชอบด้วยฎหมาย

อย่างไรก็ตาม สบน. อาจมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการศึกษา วิจัยหรือการจัดทำสถิติที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของ สบน. ตามที่กฎหมายกำหนด หรือเพื่อการปรับปรุงคุณภาพการบริหารงานและการให้บริการของ สบน. ซึ่ง สบน. จะได้แจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลแล้ว

กรณีที่ สบน. มีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกจากที่กำหนดไว้ในข้อ 3 สบน. จะขอรับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเสียก่อน และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจเพิกถอนความยินยอมการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดไว้

สบน. จัดให้มีการบันทึกข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับข้อมูลการจราจรคอมพิวเตอร์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หมายเลขไอพี (IP Address) และโปรแกรมเบราว์เซอร์ (Browser) เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์และติดตามการใช้บริการทางเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชันของ สบน. และเพื่อการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน ทั้งนี้ สบน. อาจดำเนินการเองหรือใช้บริการจากหน่วยงานภายนอกในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 5 หลักการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สบน. เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยอาจกระทำในรูปแบบของเอกสาร ฟิล์ม ภาพ เสียง หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง สบน. จะดำเนินการเท่าที่จำเป็นตามภารกิจของ สบน. และภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในข้อ 4 รวมทั้งเป็นไปตามขอบเขตที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ.
2562 ดังต่อไปนี้

ก. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

  (1) สบน. จะดำเนินการเก็บรวบรวมและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นธรรม และเท่าที่จำเป็นในการให้บริการและภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในข้อ 3

(2) สบน. จะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อน หรือในขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลทุกครั้ง เว้นแต่กรณีมีความจำเป็นตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมทั้งแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักงานจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้เป็นความลับ

(3) สบน. จะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวนั้นก่อน หรือเป็นกรณีที่ สบน. จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายหรือมีกฎหมายบัญญัติให้กระทำได้

(4) สบน. จะไม่กระทำการใดๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและได้รับความยินยอม หรือเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด

(5) สบน. จะรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงเท่านั้น เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้ สบน. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ สบน. อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลที่ สบน.ได้รับมาจากแหล่งอื่นมาผนวกเข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลผู้นั้นได้เฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดมีคุณภาพ และเพื่อการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพในการให้บริการของ สบน.

ข. การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ หรือเปิดเผย

(1) สบน. จะใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ปฏิบัติงานของ สบน. หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของ สบน. ตามที่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้เท่านั้น

(2) สบน. จะกำกับดูแลไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานของ สบน. หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยแก่บุคคลอื่นนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานตามภารกิจของ สบน. เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน หรือเป็นกรณีที่ สบน. จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายหรือมีกฎหมายบัญญัติให้กระทำได้

(3) สบน. อาจให้บุคคลหรือหน่วยงานอื่นเข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของ สบน. โดยเป็นไปตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อ 5 (ก) แล้ว และดำเนินการตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

(4) ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นบุคคลภายนอก สบน. จะจัดให้มีข้อตกลงระหว่าง สบน. กับผู้ประมวลผลข้อมูลเพื่อกำหนดให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัย การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ สบน. กำหนดเท่านั้น
ทั้งนี้ สบน. จะจัดให้มีการควบคุมและตรวจสอบการดำเนินงานตามหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดด้วย

(5) การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่ากรณีใด สบน. จะจัดให้มีการบันทึกข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน ได้แก่ บุคคลซึ่งได้รับการเปิดเผยหรือมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล วิธีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่เปิดเผย

ข้อ 6 การเก็บรักษาและการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

สบน. อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบเอกสาร ฟิล์ม ภาพหรือเสียง หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรฐานเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางกายภาพและกระบวนการเก็บรวบรวม การเก็บรักษาการใช้งาน และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ทำลาย ใช้ แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย


ทั้งนี้ สบน. จะจัดให้มีระบบการตรวจสอบระยะเวลาการเก็บรักษาและการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับระยะเวลาและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ข้อ 7 การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

สบน. จะกำหนดมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม รวมถึงการสร้างจิตสำนึกในการรับผิดชอบด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บุคลากรของ สบน. ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ ในส่วนข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือสำหรับบริการทางธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของ สบน.

ข้อ 8 สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองดังต่อไปนี้

1. สิทธิขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม

2. สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ

3. สิทธิขอให้แก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และมีคุณภาพ

4. สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเมื่อใดก็ได้ กรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมได้โดยได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมตามมาตรา 24 (4) หรือ (5)

5. สิทธิขอให้ดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

6. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและร้องขอให้ สบน. ดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดย สบน. จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอดังกล่าวอย่างไรก็ตาม สบน. อาจปฏิเสธการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และ สบน. จะบันทึกการปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวพร้อมทั้งเหตุผลไว้เป็นหลักฐาน

ข้อ 9 การเปิดเผยนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สบน. จะเปิดเผยนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามประกาศนี้ผ่านเว็บไซต์(www.pdmo.go.th) และสื่อประชาสัมพันธ์ของ สบน. ตามความเหมาะสม โดย สบน. จะพิจารณาทบทวนนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามประกาศนี้ให้สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องเป็นระยะตามความเหมาะสม ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นสาระสำคัญ สบน. จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้บริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทราบผ่านช่องทางดังกล่าวโดยเร็ว

ข้อ 10 ช่องทางการติดต่อ

1. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

สถานที่ติดต่อ: สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง

ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2265 8050

Email: saraban@pdmo.go.th

Website: www.pdmo.go.th

2. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สบน. กำหนดให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นฝ่ายเลขานุการคณะทำงานกำหนดแนวทางการดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดย สบน. มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานดังกล่าวเพื่อสนับสนุนงานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สถานที่ติดต่อ: สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง

ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2265 8050

Email: saraban@pdmo.go.th

Website: www.pdmo.go.th

3. หน่วยงานทางการที่กำกับดูแลตามกฎหมายว่าด้วยคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเห็นว่า สบน. ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อ “คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และช่องทางที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

 

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะมีการใช้งานคุกกี้ (cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถเลือกที่จะยินยอมหรือไม่ยินยอมได้  ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล